ชื่ออื่นๆ : | มะตาเสือ ยอ แยใหญ่ |
ชื่อสามัญ : | Noni, Indian mulberry, Noni Indian mulberry, Great morinda, Mengkudu (Malay), Nonu/Nono (Pacific Islands) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Morinda citrifolia L. |
วงศ์ : | Rubiaceae |
ถิ่นกำเนิด : | อินเดีย ถึงตอนใต้ของจีน |
ลักษณะทั่วไป : | ไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงพุ่มแน่นทึบ แตกกิ่งก้านจำนวนมาก |
ฤดูการออกดอก : | ติดดอกออกผลตลอดปี |
การขยายพันธุ์ : |
| การเพาะเมล็ดแก่ เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากมีเมล็ดจำนวนมาก |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้ : |
| ใช้เป็นอาหารและสมุนไพรรักษาโรค |
|
ข้อแนะนำ : |
| การเก็บลูกยอควรเก็บเมื่อผลเริ่มแก่ (เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองอ่อน) |
| การเก็บผลเพื่อเอาเมล็ดมาเพาะขยายพันธุ์ ควรเก็บเมื่อผลเปลี่ยนจากสีเหลืองมาเป็นสีขาว |
|
ข้อมูลอื่นๆ : |
| ใบ มีวิตามินเอ 40,000 ยูนิตสากลต่อ 100 กรัม มีคุณสมบัติในการบำรุงสายตา หัวใจ
+ คั้นน้ำทาแก้โรคเก๊าท์ ปวดตามข้อเล็กๆ ของนิ้วมือ นิ้วเท้า สระผมฆ่าเหา แก้กระษัย
+ ใช้ใบปรุงเป็นอาหาร แก้ท้องร่วง
+ ใช้ใบอ่อนรองก้นในห่อหมก ใช้แกงอ่อมกับปลาดุก อร่อยมากครับ ผู้รวบรวมเคยกินมาตั้งแต่เด็ก |
| ราก ใช้เป็นยาระบาย แก้กระษัย ใช้สกัดสีออกมา เป็นสีย้อมผ้าได้ โดยผสมส่วนของเกลือต่างๆ สามารถเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งสีเดิมของรากจะมีสีเหลือง หรือเหลืองปนแดง หากผสมตามส่วนด้วยเกลือ อาจจะได้สีแดง ชมพู น้ำตาลอ่อน สีม่วงแดง หรือสีดำ เป็นต้น |
| ผล โตเต็มที่แต่ไม่สุก จิ้มน้ำผึ้งรับประทาน มีคุณสมบัติเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ กระเพาะอาหาร แก้เหงือกเปื่อยเป็นขุมบวม ขับเลือดลม ขับโลหิตประจำเดือน ผลดิบ ต้มน้ำรับประทานกับรากผักชี แก้อาการอาเจียนของหญิงมีครรภ์
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
นำผลยอโตเต็มที่แต่ไม่สุก ฝานเป็นชิ้นบางๆ ย่างหรือคั่วไฟอ่อนๆ ให้เหลืองกรอบ ใช้ครั้งละ 1 กำมือ (10-15 กรัม) ต้มหรือชงกับน้ำ เอาน้ำที่จิบทีละน้อย และบ่อยๆ ครั้งจะได้ผลดีกว่าดื่มครั้งเดียว
สารเคมี : ผลยอมีสารเคมี Asperuloside, caproic acid, caprylic acid และ glucose |
| การทำน้ำลูกยอ
1. นำลูกยอสุกห่ามๆ มาล้างน้ำให้สะอาด แคะเอาเม็ดออก ปั่นแล้วคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำผลไม้เข้มข้นชนิดอื่น เช่น น้ำสับปะรด หรือน้ำมะเขือเทศ เพื่อลดกลิ่นของลูกยอและเพิ่มรสชาติดีขึ้น แต่ถ้าต้องการรสหวานเล็กน้อย ให้นำน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นพอประมาณแล้วนำไปผสมกับน้ำลูกยอที่คั้นได้ตามต้องการ
2. ปัจจุบันนิยมนำลูกยอมาปั่นเป็นน้ำลูกยอคั้นสด เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด อีกทั้งสารสำคัญในลูกยอยังมีความคงตัวอยู่เช่นเดียวกับวิธีอื่นๆ แต่ปัญหาจะอยู่ที่รสฝาดและกลิ่นฉุน อาจดื่มได้ลำบาก การนำน้ำลูกยอที่คั้นได้ผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น น้ำองุ่น น้ำบลูเบอรี่ น้ำสับปะรด น้ำฝรั่ง โดยใช้น้ำลูกยอ 9 ส่วน น้ำผลไม้อื่นๆ 1 ส่วนจะช่วยให้กลิ่นและรสชาติของน้ำลูกยอดีขึ้น
คุณค่าของน้ำลูกยอ
หากดื่มน้ำลูกยอคั้นสดเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทน รักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้นอนหลับเป็นปกติ มีฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็งและระงับการเติบโตของเซลล์มะเร็งเนื้องอก ผลข้างเคียงจากการดื่มน้ำลูกยอคั้นสดพบน้อยมาก บางคนอาจเกิดอาการท้องอืด หรือระบายท้องในครั้งแรกซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้โดยลดขนาดการรับประทานลง
ข้อควรระวัง
น้ำลูกยอนั้นมีธาตุโปแตสเซียมสูงมากเช่นเดียวกับน้ำมะเขือเทศ ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังจึงไม่ควรรับประทาน เพราะอาจเกิดอันตรายได้ |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น